ถอดรหัส “Insight” สแกมเมอร์ : ทำไมเราถึง “คลิก” ลิงก์หลอกลงทุนบน Facebook ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยง?

ในยุคที่ข้อมูลท่วมท้น หน้าฟีด Facebook ของเราไม่ได้มีแค่เรื่องราวของเพื่อนฝูงอีกต่อไป แต่กลับเต็มไปด้วยโฆษณา (Ads) ที่ยิงตรงมาหาเรา และในหมู่โฆษณาเหล่านั้น “สแกมเมอร์” หรือมิจฉาชีพได้แฝงตัวเข้ามาอย่างแนบเนียน ทั้งในรูปแบบการชวนลงทุนผลตอบแทนสูงลิ่ว หรือลิงก์ปลอมที่รอขโมยข้อมูล
คำถามคือ… ทำไมหลายคนยังคงตกเป็นเหยื่อ?
บทความนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อซ้ำเติม แต่เพื่อเจาะลึก “Insight” หรือ “จิตวิทยา” ที่สแกมเมอร์ใช้เล่นกับเรา เพื่อให้คุณและคนที่คุณรัก “รู้ทัน” ก่อนจะ “คลิก”
1. สแกมเมอร์ไม่ได้โจมตี “ความไม่รู้” แต่โจมตี “อารมณ์”
นี่คือความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุด คนส่วนใหญ่คิดว่า “ฉันฉลาดพอ ไม่โดนหลอกหรอก” แต่สแกมเมอร์ไม่ได้ออกแบบเหยื่อล่อมาสำหรับ “คนโง่” เขาออกแบบมันมาเพื่อโจมตี “อารมณ์พื้นฐาน” ของมนุษย์ 4 อย่าง :
- 1.1 – ความโลภ : “การันตีผลตอบแทน 30% ใน 1 วัน”, “ลงทุน 1,000 ได้ 10,000” ประโยคเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ปิดสวิตช์การคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) ของเรา ความโลภทำให้สมองส่วนเหตุผลหยุดทำงานชั่วขณะ และความอยากได้จะเข้ามาแทนที่
- 1.2 – ความกลัว : “รับสิทธิ์ด่วน! จำกัด 50 คนสุดท้าย”, “โปรโมชั่นนี้จะหมดใน 10 นาที” สแกมเมอร์สร้าง “ความเร่งด่วนจอมปลอม” (False Urgency) ทำให้เรากลัว “ตกรถ” หรือ “พลาดโอกาส” (Fear Of Missing Out – FOMO) เราจึงรีบตัดสินใจโดยขาดการไตร่ตรอง
- 1.3 – ความหวัง : ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง หรือเวลาที่เรามีปัญหาการเงิน (Pain Point) โฆษณาที่เสนอ “ทางลัด”, “ช่องทางปลดหนี้” หรือ “รายได้เสริมง่ายๆ” มันคือการยื่น “ความหวัง” มาให้เราในจังหวะที่อ่อนแอที่สุด
- 1.4 ความน่าเชื่อถือปลอม : พวกเขาใช้รูปดารา, นักธุรกิจชื่อดัง, ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือแม้แต่โลโก้หน่วยงานรัฐ (เช่น ก.ล.ต., ธนาคารแห่งประเทศไทย) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือปลอมๆ เมื่อเราเห็นสิ่งที่คุ้นเคย ความระแวงของเราจะลดลง
2. พลังของ “Targeted Ads” – คุณไม่ได้ “บังเอิญ” เห็นโฆษณา
สแกมเมอร์ไม่ได้ยิงแอดมั่วซั่ว พวกเขาใช้เครื่องมือของ Facebook อย่างเชี่ยวชาญเพื่อ “คัดเลือก” เหยื่อ
- 2.1 – เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย : พวกเขาสามารถเลือกยิงแอดไปหาคนที่ “มีแนวโน้ม” จะตกเป็นเหยื่อได้ เช่น คนที่เพิ่งค้นหาคำว่า “หางาน”, “รายได้เสริม”, “วิธีรวยเร็ว” หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจตามเทคโนโลยีไม่ทัน
- 2.2 – A/B Testing : พวกเขาทดสอบ Ads หลายๆ แบบ รูปแบบ ก. อาจใช้รูปดารา, รูปแบบ ข. อาจใช้กราฟผลตอบแทนสูงๆ เพื่อดูว่าโฆษณาแบบไหน “เรียกคลิก” ได้ดีที่สุด
- 2.3 – การสร้างหน้าม้า : คุณจะเห็นคอมเมนต์ในโพสต์นั้นๆ เช่น “ได้เงินจริงค่ะ ขอบคุณโค้ช”, “ตอนแรกก็กลัว แต่ลองแล้วได้จริง” คอมเมนต์เหล่านี้ (ส่วนใหญ่เป็นอวตารปลอม) ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้าง “Social Proof” หรือทำให้คนอื่นรู้สึกว่า “คนอื่นเขาก็ทำกัน”
ดังนั้น การที่คุณเห็นโฆษณาหลอกลวง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะคุณ “ถูกเลือก” แล้วว่ามีลักษณะบางอย่างที่สแกมเมอร์ต้องการ
“จับไต๋” 7 สัญญาณอันตราย ที่ต้องเห็นแล้ว “หยุด” ทันที
เมื่อคุณเข้าใจจิตวิทยาที่เขาใช้แล้ว ให้ใช้ “เหตุผล” เข้ามาตรวจสอบด้วย 7 สัญญาณเตือนนี้:
1. การันตีผลตอบแทนที่สูงเวอร์ : โลกนี้ไม่มีการลงทุนใดที่ “การันตี” ผลตอบแทนสูงและไร้ความเสี่ยง ถ้ามันฟังดูดีเกินจริง (Too good to be true) มันคือเรื่องโกหก 100%
2. เร่งรัดการตัดสินใจ : ใช้คำว่า “ด่วน”, “จำกัด”, “สุดท้าย” บีบให้คุณโอนเงินหรือคลิกทันที
3. ภาษาที่ใช้ดูแปลก : สะกดผิดๆ ถูกๆ ใช้คำฟุ่มเฟือย หรือใช้ภาษาไทยที่เหมือนแปลมาจาก Google Translate
4. ลิงก์ที่น่าสงสัย :
- 4.1 – ไม่ใช่โดเมนทางการ : เช่น อ้างเป็น ก.ล.ต. แต่ลิงก์เป็น .co, .xyz หรือ bit.ly
- 4.2- การสะกดคำผิด : เช่น Facebo0k.com (ใช้เลข 0 แทน O) หรือ SET-TH.com (พยายามเลียนแบบ set.or.th)
- 4.3 – วิธีเช็ก : ให้ลองเอาเมาส์ไปชี้ที่ลิงก์ (อย่าเพิ่งคลิก) แล้วดู URL ที่แสดงขึ้นมามุมซ้ายล่างของเบราว์เซอร์
5. ขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่าน : ไม่มีหน่วยงานไหนขอรหัสผ่าน (Password) หรือรหัส OTP ของคุณผ่าน Ads หรือแชท
6. ให้โอนเงินเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา : การลงทุนที่ถูกกฎหมาย ต้องโอนเงินเข้า “บัญชีชื่อบริษัท” ที่ตรวจสอบได้ ไม่ใช่บัญชีชื่อนาย ก. นาง ข.
7. ใช้รูปคนดังมาแอบอ้าง : ดารา, อินฟลูเอนเซอร์, เหล่าเซียน หรือนักธุรกิจตัวจริง จะไม่มาชวนคุณลงทุนแบบการันตีผลตอบแทนผ่าน Ads เหล่านี้แน่นอน
ถ้าพลาดคลิก หรือ โอนเงินไปแล้ว ทำอย่างไร?
1. ถ้าคลิกลิงก์ (ยังไม่โอนเงิน):
- 1.1 – หากมีการติดตั้งแอปแปลกๆ : ให้รีบ “เปิดโหมดเครื่องบิน” (Airplane Mode) ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที แล้วลบแอปนั้นทิ้ง และสแกนไวรัส
- 1.2 – หากกรอกรหัสผ่านไป: รีบเปลี่ยนรหัสผ่านของทุกบัญชีที่ใช้รหัสเดียวกัน (โดยเฉพาะแอปธนาคาร, อีเมล, Facebook)
2. ถ้าโอนเงินไปแล้ว (ถูกหลอกลงทุน):
- 2.1 – รวบรวมหลักฐาน: แคปหน้าจอโฆษณา, โปรไฟล์สแกมเมอร์, สลิปการโอนเงิน, ข้อความแชททั้งหมด
- 2.2 – แจ้งความออนไลน์ ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร) ดูแลโดย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเข้าเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com โดยเร็วที่สุด หรือโทรสายด่วน 1441

- 2.3 – อายัดบัญชี: โทรแจ้งธนาคาร “ของเรา” เพื่อแจ้งอายัดบัญชีปลายทาง
บทสรุป: อาวุธที่ดีที่สุดคือ “สติ”
สแกมเมอร์เก่งในการใช้ “เทคโนโลยี” และ “จิตวิทยา” แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อน นั่นคือพวกเขาต้องการให้เรา “ตัดสินใจเร็ว” และ “ใช้อารมณ์”
ดังนั้น อาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เรามีคือ “สติ” และ “การตรวจสอบ”
อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวมาบดบังเหตุผล ช่วยกันแชร์บทความนี้ โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ในบ้าน หรือเพื่อนที่กำลังมองหาช่องทางรวยทางลัด เพราะเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ไม่ใช่แอปกันไวรัส แต่คือ “ความรู้” และ “การเตือนกัน” ของคนในสังคมครับ



