ซื้อ iPhone 11 ทุกรุ่น ต้องเช็คอะไรบ้าง ก่อนใส่ถุงกลับบ้าน ฉบับบ้านๆ

iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max เริ่มขายวันแรกในไทยแล้ว (18 ตุลาคม 2562) จากที่ผมไปเห็นบรรยากาศที่ร้าน iBeat สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ ต้องบอกเลยว่าไม่ได้เห็นบรรยากาศต่อคิวซื้อ iPhone ตั้งแต่วันแรกที่ขายมานานมาก และตามจุดใหญ่ ๆ อย่าง Apple Stroe สาขาไอคอนสยาม ที่มีออกมาตามสื่อไอทีต่าง ๆ ก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อคิวรอซื้อ iPhone รุ่นใหม่ กันอย่างคึกคัก

สำหรับใครที่ตั้งใจจะไปซื้อ iPhone 11 ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามหลังจากนี้ ตามใจด็อทคอมจะมาแนะนำเทคนิค ” ซื้อ iPhone 11 ทุกรุ่น ต้องเช็คอะไรบ้าง “ ก่อนใส่ถุงกลับบ้าน ในแบบฉบับบ้าน ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถอ่านและจำไปใช้ตอนซื้อเครื่องได้ครับ

ซื้อ iPhone 11
บรรยากาศที่ร้าน iBeat สาขาสีลม คอมเพล็กซ์ ช่วงบ่ายของวันที่ 18 ต.ค.62

1. ตรวจสอบสภาพกล่อง

ก่อนจะให้พนักงานร้านแกะพลาสติกที่ห่อกล่องอยู่ ควรตรวจสอบแต่แรกเลยครับว่ามีรอยแกะหรือเปล่า กล่องมีรอยบุบยุบตรงไหนหรือไม่ และเป็นรุ่น สี ที่เราต้องการหรือไม่

2. เช็ครอยขีดข่วน ก่อนเปิดเครื่อง

เมื่อแกะกล่องออกมาแล้ว อันดับถัดมาคือ เช็คความสมบูรณ์ ก่อนเปิดเครื่อง ให้สังเกตว่าทั้งหน้าจอ, ขอบ, ฝาหลัง, เลนส์กล้อง มีรอยขูด, รอยบุบ ตรงไหนหรือไม่ หากพบแม้แต่จุดเดียวให้แจ้งพนักงานร้านเลยครับ เพื่อขอเปลี่ยนเครื่องใหม่

3. ตรวจสอบอุปกรณ์ในกล่อง

เมื่อตรวจสอบตัวเครื่องแล้ว ให้เช็คอีกว่าในกล่องมีอุปกรณ์ครบหรือไม่ เช่น หูฟัง, สาย Lightning, อะแดปเตอร์ รวมไปถึงคู่มือการใช้งาน ยิ่งถ้ามีเวลาก่อนออกจากร้านสักนิด หยิบหูฟัง, สายชาร์จและอะแดปเตอร์ มาทดสอบสักเล็กน้อยก็ยิ่งเป็นเรื่องดีครับ

4. ทดสอบการทำงานต่าง ๆ หลังเปิดเครื่อง

ทันทีที่เปิดเครื่องแล้ว หากใครมี Apple ID อยู่แล้วก็กรอกได้เลยครับ หรือใครยังไม่มีก็สามารถสมัครและลงทะเบียนทีหลังได้ เมื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก หรือหน้า home ให้เริ่มไล่เช็คตามนี้ครับ

4.1 ทดสอบระบบสั่น

4.2 ทดสอบระบบเสียง ง่าย ๆ เลยด้วยการเปิดเสียงเรียกเข้า พร้อมกดปุ่มปรับระดับเสียงทั้งเพิ่มและลดเสียง ว่ากดง่าย ๆ หรือมีลักษณะผิดปกติหรือเปล่า พร้อมกับฟังเสียงที่ออกจากลำโพงว่ามีเสียงดังปกติ มีเสียงแตกหรือไม่เมื่อเพิ่มเสียงจนสุด

4.3 ทดสอบเพิ่ม-ลด ความสว่างของหน้าจอ และสังเกตด้วยว่าบนหน้าจอมีความผิดปกติใดหรือเปล่า เช่น จุดบนหน้าจอ, แสงรั่วมาตามขอบจอ เป็นต้น

4.4 ระบบทัชสกรีนบนหน้าจอ แตะเปิด-ปิดแอพ, ใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอไปมาซ้ายขวา รวมถึงการเรียกใช้แถบแจ้งเตือนและ Control Center เพื่อดูการตอบสนองว่าเป็นปกติหรือเปล่า

4.5 Control Center หรือแถบเครื่องมือลัดสำหรับเปิด-ปิด Wi-Fi, 4G, บลูทูธ, ไฟฉาย, ระดับความสว่าง, ระดับเสียง, โหมด Airplane ฯลฯ ทดสอบการใช้ดูครับว่าเมื่อกดสั่งงานแล้วสามารถใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่

4.6 ทดสอบการหมุนหน้าจอ ว่าสามารถสลับเป็นแนวนอน แนวตั้ง ได้ลื่นไหลเป็นปกติหรือเปล่า

4.7 ทดสอบ Face ID เพื่อเช็คว่าสามารถตรวจจับใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้รวดเร็ว สมราคาของ Apple หรือเปล่า

4.8 ทดสอบกล้องหน้าและกล้องหลัง ลองดูว่ากดถ่ายได้ปกติหรือเปล่า, การสลับโหมดใช้งานทั้งถ่ายมุมกว้าง, การซูม, ถ่ายวิดีโอ, การโฟกัส ว่าสามารถทำงานได้เป็นปกติหรือไม่ รวมถึงลองสังเกตที่หน้าจอขณะเปิดกล้องว่ามีลักษณะมัวหรือฝ้าเกิดขึ้นหรือไม่

4.9 ทดสอบเปิดใช้งาน Siri พร้อมกับทดลองพูดว่า ” หวัดดี Siri ” ในขณะวางเครื่องเฉยๆ เพื่อดูว่ามีการตอบสนองต่อคำพูดของเราได้ทันทีหรือไม่

5. เช็คสัญญาณ

ขั้นตอนนี้อาศัยการใส่ SIM ครับ เพื่อทดสอบว่าสัญญาณโทรศัพท์ขึ้นตามปกติหรือไม่, เปิด 4G ใช้งานได้ปกติหรือเปล่า และอาจทดสอบการโทรเข้า-รับสาย เพื่อทดสอบลำโพงสนทนาด้วยนะครับ

ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีที่ผมใช้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ iPhone ทุกครั้งที่ซื้อ ก่อนเดินออกจากร้านครับ เพื่อให้ได้ iPhone ที่สมบูรณ์ที่สุด พร้อมใช้งาน ใครมีเทคนิคอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถบอกเล่าประสบการณ์ต่อ ๆ กันได้เลยครับ

เช็คโปร iPhone 11 ทุกรุ่น AIS

เช็คโปร iPhone 11 ทุกรุ่น Truemove H

เช็คโปร iPhone 11 ทุกรุ่น dtac

 

CK

CK - นามแฝงจากเรื่องใกล้ตัว คอยแบ่งปันเรื่องไอทีผ่านตัวหนังสือที่จะทำให้คนอ่านเข้าใจง่าย ทั้งข่าว, รีวิวมือถือ หรือจะเป็น How to ก็อยากแชร์ให้ทุกคนได้สัมผัสว่าไม่ใช่เรื่องไกลตัวและไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ ... ขอให้มีความสุขกับทุกบทความบนเว็บไซต์ 'ตามใจด็อทคอม' - www.tarmjai.com ครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *