เช็คจุดเด่นและข้อดีข้อเสียของการใช้ไอโฟนก่อนเลือกซื้อ iPhone 12 / iPhone XR

ไอโฟน (iPhone) เป็นมือถือสมาร์ทโฟนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากบริษัท Apple Inc. ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว สำหรับ iPhone รุ่นแรก ๆ ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2007 ไล่มาจนปัจจุบัน ก็ได้มี iPhone จำหน่ายมากมายหลายรุ่น ซึ่งรุ่นล่าสุดก็คือ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max แต่สำหรับรุ่นต่าง ๆ ก่อนหน้าก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีการวางจำหน่ายมาแล้วหลายปี อย่างเช่น iPhone XR โดยหากจะเลือกซื้อก็อาจจะดูปัจจัยต่าง ๆ เช่น ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้างจากการใช้งานจริง อย่างเช่น ความจุแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง, กล้องถ่ายรูป, ขนาดของหน้าจอ, เสียงจริง ๆ เวลาโทรคุย รวมไปถึงงบประมาณที่มีอยู่จึงควรเลือก iPhone รุ่นไหนดีที่จะเหมาะสมและมีการใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

iPhone รุ่นต่าง ๆ Credit : Wikitech

จุดเด่นและข้อดีข้อเสียของการไอโฟนในแต่ละรุ่นล่าสุด

1. iPhone 12 Pro Max ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 39,900 บาท
2. iPhone 12 Pro ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 36,900 บาท
3. iPhone 12 ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 29,900 บาท
4. iPhone 12 Mini ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 25,900 บาท
5. iPhone XR ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้น 18,400 บาท

iPhone 12 Pro Max Credit : Flashfly

iPhone 12 Pro Max

iPhone 12 Pro Max รองรับ 5G ล่าสุดจาก Apple ที่โดดเด่นด้วยขอบที่บางลงและหน้าจอที่กว้างขึ้น และด้านหลังเป็นกระจก Ceramic Shield สร้างความโดดเด่นจากในทุก ๆ รุ่น อีกทั้งป้องกันการตกกระแทกได้ดีกว่าเดิมถึง 4 เท่า พร้อมระบบติดแม่เหล็ก MagSafe ใหม่ที่ด้านหลังสำหรับที่ชาร์จไร้สาย ขนาดจอแสดงผล OLED 6.7 นิ้ว น้ำหนัก 226g แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วัน สำหรับกล้องถ่ายรูปที่ยังมี 3 ตัวเหมือนเดิมแต่กล้องหลักมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่เซนเซอร์ใหญ่ขึ้น 47% ซึ่งเก็บแสงได้มากกว่ารุ่นก่อน ๆ มากถึง 87% ส่วนกล้องเทเลโฟโต้มีการซูมแบบออปติคอลที่ยาวขึ้น 2.5 เท่าโดยเพิ่มขึ้นจาก 2x เลนส์อาจจะมีการทำงานช้ากว่าใน iPhone 12 Pro เพียงเล็กน้อย

iPhone 12 Pro Credit : Youtube

iPhone 12 Pro

iPhone 12 pro จอแสดงผล OLED ขนาด 6.1 นิ้ว เหมือนกับใน iPhone 12 แต่จะสว่างกว่าเล็กน้อยใน 12 Pro นอกจากนี้ยังหุ้มด้วยวัสดุ Ceramic Shield ที่ทนต่อการตกกระแทกมากขึ้น มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ A14 Bionic มีแรม 6GB รวมถึงมีทรานซิสเตอร์มากขึ้น 40% ที่ช่วยเพิ่มความเร็วและประหยัดพลังงานเพื่อเซฟอายุแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ประมาณ 40 ชั่วโมง iPhone 12 Pro มีระบบกล้อง 3 ตัว กล้องหลังและกล้องหน้าขนาด 12 ล้านพิกเซล และกล้องเทเลโฟโต้ซูมได้ตั้งแต่ 0.5 ถึง 2 เท่าและซูมแบบดิจิตอลได้ 10 เท่า มีโหมด LiDAR และกล้อง Wide ที่รับแสงได้มากขึ้นถึง 27% ช่วยให้โฟกัสได้คมขึ้น ทำให้ถ่ายภาพคนในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น

iPhone 12 Mini Credit : GQ

iPhone 12 Mini

สำหรับใครที่เน้นมือถือขนาดเล็กกะทัดรัดพอดีมือ และยังเป็นมือถือที่รองรับ 5G กับสเปคที่สูงขึ้น ก็ต้องรุ่น iPhone 12 Mini ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ตอบโจทย์ด้วยชิป A14 Bionic และขนาดหน้าจอถือแบบถนัดมือที่ 5.4 นิ้ว มาพร้อมจอภาพ Super Retina XDR เทียบเท่าซีรีส์ 12 พร้อมกล้องคู่แบบ Wide และ Ultra Wide ที่ใช้งานได้ดีด้วยความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่  F/1.6 และ F/2.4 ตามลำดับ และช่วงซูมแบบออปติคอล 2 เท่า ปลดล็อกแบบ Face ID

iPhone 12 Credit : Specphone

iPhone 12

สำหรับคนที่ไม่ได้เน้นการใช้งานกล้องมือถือแบบโปร ๆ รุ่นนี้ก็ถือว่าจะตอบโจทย์ได้ดี ความสามารถใกล้เคียงรุ่น 12 Pro ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว หน้าจอเป็นแบบ OLED Super Retina XDR ที่มีสีสันสวยงามสดใส สเปกเทียบเท่ากับรุ่น 12 Proได้เลย และเหมาะสำหรับคนที่อาจจะมีงบน้อย จะต่างกันเพียงแค่ขนาด Ram ที่ให้มาที่ 4GB ในขณะที่รุ่น 12 Pro ให้แรมขนาด 6GB ซึ่งรุ่น 12 จะประมวลผลได้ช้ากว่าเพียงนิดเดียว นอกจากนี้ ยังแตกต่างกันที่ตัวกล้องจะเป็นแบบกล้องคู่ ในขณะที่ iPhone 12 Pro จะเป็นแบบ 3 กล้อง กล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงที่กว้างกว่า f/1.8 ซูมออกแบบออปติคอล 2 เท่าซูมดิจิตอลได้สูงสุด 5 เท่า 

iPhone XR Credit : เช็คราคา

iPhone XR

iPhone ซีรีส์ X หรือ iphone xr ที่มีสีสันให้เลือกมากมายถึง 6 สี ใช้ CPU Chipset A12 Bionic และมีขนาด RAM ที่ 3GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ส่วนตัวแบตเตอรี่นั้นมีขนาดถึง 2,942mAh สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Wide ที่สามารถใช้งานได้ทั่วไปหากไม่เน้นการใช้งานกล้อง สำหรับการถ่ายภาพวิวถ่ายภาพบุคคลถือว่าอยู่ในระดับดี เพราะสามารถปรับระยะชัดลึกได้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถปรับระยะชัดลึกได้เช่นเดียวกัน

ข้อดีที่คุณจะประทับใจกับการครอบครองไอโฟน

1. เป็นแว่นขยายแบบดิจิตอลโดยใช้กล้องบน iPhone ในการขยายขนาดของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขวดยาหรือรายการเมนูอาหาร และด้วยวิธีการสแกนเนอร์ LiDAR ใหม่ วันนี้ iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max 
2. สามารถระบุระยะห่างระหว่างคุณกับอีกคนได้ โดยใช้คุณสมบัติ “การตรวจหาผู้คน” ซึ่งเหมาะกับยุคสมัยที่จะต้องเว้นระยะห่างทางสังคม “SOCIAL DISTANCING”
3. ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ใน iOS กับระบบ VoiceOver สามารถอ่านข้อความที่อยู่ในรูปภาพให้ฟังได้แม้จะมองไม่เห็น ซึ่งเป็นมือถือสมาร์ทโฟนที่จะช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ทุพพลภาพ
4. มีสัญญาณการเตือนทั้งระบบสั่นและเสียงเมื่อตรวจพบการแจ้งเตือนไฟไหม้ หรือกริ่งประตูบ้าน

ข้อเสียหรือข้อด้อยที่สาวกไอโฟนยังใช้อยู่และรับได้

1. การเข้าใช้งาน Line เมื่อมีการแจ้งเตือนข้อมูลแชทอาจจะยังอัปเดตให้ช้า ซึ่งจะต้องรอสักพักก่อนจึงจะมีข้อความ
2. การใช้ไอโฟนในขณะที่ฝนตกแล้วโดนละอองฝน จะมีผลทำให้เวลาคุยโทรศัพท์จะไม่ค่อยได้ยินซึ่งอาจมีการปรับปรุงแก้ไขแล้วใน iPhone 12 รุ่นใหม่ที่สามารถกันน้ำได้
3. ระบบกล้องที่จะการันตีด้วยราคา อาจจะวัดกันลำบากเพราะจริง ๆ มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ต่างก็จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ แต่สุดท้ายก็จะต้องพึ่งเทคนิคฝีมือการถ่ายภาพออย่างมืออาชีพอยู่ดี
4. การใช้งานบางแอปพลิเคชั่นในระบบแอนดรอยต์อาจจะไม่สามารถใช้ได้ในระบบ iOS

จะเห็นว่าไอโฟนเป็นมือถือสมาร์ทโฟนที่หลายคนนิยมใช้ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max หรือ iPhone XR ล้วนมีข้อดีและข้อด้อย แต่ส่วนใหญ่ถือว่ารับได้ถ้าเปรียบเทียบกับคุณสมบัติที่มีมาให้ในแต่ละรุ่นกับราคาที่คิดว่าไม่สูงมากหากจะเทียบกับรุ่นต่อรุ่นในระบบแอนดรอยต์ และพลาดไม่ได้กับShopee 12.12 Birthday Sale ช้อปส่งท้าย เซอร์ไพรส์จัดเต็มทุกโปร 12.12 จากแบรนด์ดังชั้นนำกับขบวนสินค้ายอดฮิตมากมายลดแบบจัดหนัก รับโค้ดส่วนลด 2,000.- และโค้ดลด 50% ช้อปส่งท้ายปีฟินกว่าเดิมด้วยโปรส่งฟรีทั่วไทยขั้นต่ำ 0.- เริ่มช้อปได้เลยตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. – 12 ธ.ค. ที่ Shopee 12.12 Birthday Sale!

อ้างอิงข้อมูล  : Mybest / Apple /

• Facebook